วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2555

ประโยชน์ของแอปเปิ้ล

แอปเปิ้ลแดง



สรรพคุณ และ ประโยชน์ของแอปเปิ้ล

แอปเปิ้ล รู้จักกันดีในนามผลไม้ที่แสนอร่อยและหอมหวานและประโยชน์ของแอปเปิ้ลก็มีมากอีกด้วยค่ะ ไม่ใช่แค่ ประโยชน์ของแอปเปิ้ล แต่เพียงอย่างเดียวแต่ยังมี สรรพคุณของแอปเปิ้ล ที่จัดว่าเป็นสมุนไพรได้อีกด้วย แต่ในปัจจุบันก็มีคนไม่น้อยที่เลงเห็น ประโยชน์ของแอปเปิ้ล บ้างก็นำมาปรุงเป็นอาหารและขนมกันยกใหญ่ อาทิเช่น ยำผลไม้ ตำผลไม้ หรือขนมหวาน ก็เช่น พายแอปเปิ้ล เค้กแอปเปิ้ล อะไรประมาณนั้น แต่วันนี้เราจะำนำความรู้ สรรพคุณของแอปเปิ้ล และ ประโยชน์ของแอปเปิ้ล มาบอกเล่าเก้าสิบให้คุณ ๆ ที่ใส่ใจในสุขภาพได้รู้เกี่ยวกับ ผลไม้แอปเปิ้ล ให้ดียิ่งขึ้นค่ะ นั้นเรามาดู สรรพคุณของแอปเปิ้ล และ ประโยชน์ของแอปเปิ้ล กันเลยดีกว่าค่ะ

สรรพคุณ / ประโยชน์ของแอปเปิ้ล

คุณค่าโภชนาการเมื่อกินโดยไม่ปอกเปลือกจะมีพลังงาน 80 แคลอรี วิตามินบี 6 เท่ากับ 0.1 มิลลิกรัม วิตามินซี 7.9 มิลลิกรัม เหล็ก 0.2 มิลลิกรัม ทองแดง 0.1 มิลลิกรัม และโพแทสเซียม 158.7 มิลลิกรัม หากปอกเปลือกปริมาณสารสำคัญต่าง ๆ ก็จะลดลงไปจากที่กล่าวไว้
แอปเปิ้ลมีสารสำคัญคือ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี และเส้นใยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ คือ เพคตินมีกรด 2 ชนิด คือ กรดมาลิคและกรดทาร์ทาริกช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีนและไขมัน นอกจากนั้นยังมีการกล่าวถึงสรรพคุณ บำรุงหัวใจ ลดคลอเลสเตอรอล ลดความดัน ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสรและฆ่าเชื้อไวรัส
บทความในวารสารการแพทย์สหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2470 ยกให้แอปเปิ้ลเป็นผลไม้เหมาะสำหรับผู้ป่วยภาวะเลือดเป็นกรดไขข้อรูมาติก เกาต์ ดีซ่าน และอื่น ๆ
แอปเปิ้ลยังช่วยควบคุมน้ำหนักเพราะมีแป้งและน้ำตาลถึง 75% ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ได้ในเวลาไม่เกิน 10 นาที ดังนั้นความอยากอาหารจึงลดลงทั้งทำให้ไม่รู้สึกหงุดหงิดและอ่อนเพลียระหว่างรอเวลาอาหารมื้อใหญ่ แต่แอปเปิ้ลผลสด ๆ เท่านั้นที่มีสรรพคุณนี้ การดื่มน้ำแอปเปิ้ลไม่ทำให้หายหิวแต่จะทำให้น้ำหนักเพิ่มด้วย
กิน แอปเปิ้ลวันละ 2-3 ผลช่วยลดปริมาณคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือด แต่จะได้ผลมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แอปเปิ้ลลดคลอเลสเตอรอลในผู้หญิงได้ดีกว่าผู้ชาย



สรรพคุณ และ ประโยชน์ของแอปเปิ้ล


คณะวิจัยมหาวิทยาลัยพอลซาบาทิเอร์ เมืองตูลูส ฝรั่งเศส ทดลองในอาสาสมัครวัยกลางคนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย 30 คน โดยให้กินอาหารเหมือนเดิมทุกประการ แต่กินแอปเปิ้ลด้วยวันละ 3 ผล ทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือน พบว่าอาสาสมัคร 24 คน มีปริมาณคลอเลสเตอรอลในเลือดลดลง บางคนลดมากกว่า 10% และเมื่อกรดในทางเดินอาหารย่อยสลายไขมันแยกคลอเลสเตอรอลออกมาแล้ว เพคตินจะคอยดักจับคลอเลสเตอรอลเหล่านั้นนำไปทิ้งก่อนจะถูกดูดกลับเข้าสู่ร่างกายเป็นการขจัดคลอเรสเตอรอลออกไป
แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานและผู้ต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือด ปกติเมื่อกินอาหารเข้าไปอาหารแต่ละชนิดจะย่อยสลายและดูดซึมผ่านผนังกระเพาะลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดจะเพิ่มช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของอาหารนั้น เช่น ถ้ากินน้ำผึ้งน้ำตาลในเลือดจะขึ้นฮวบฮาบทันที แต่สำหรับแอปเปิ้ลถึงจะมีน้ำตาลธรรมชาติในเนื้อแอปเปิ้ลมากแต่ทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ เท่านั้น และยังพบว่าคนที่กินอาหารที่มีไฟเบอร์มาก ๆ มีโอกาสเกิดเบาหวานต่ำกว่าคนที่กินน้อยและสำหรับคนที่เป็นเบาหวานอยู่แล้วไฟเบอร์จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดด้วย แอปเปิ้ลมีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำสูงมากประโยชน์ของแอปเปิ้ล โดยแบ่งตามสีดังนี้
1. แอปเปิ้ลแดง มีจุดเด่นที่ดีต่อสุขภาพคือมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์มากที่สุด และยังมีอิลาสตินและคอลลาเจนที่ดีต่อสุขภาพผิวด้วย
2. แอปเปิ้ลสีชมพู มีสารฟิโนลิกมากที่สุดในบรรดาแอ๊ปเปิ้ลด้วยกัน ซึ่งสารนี้ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้าและชะลอความแก่ นอกจากนั้นยังมีฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซีทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรง ลดการอักเสบ ลดไข้ รวมทั้งช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย
3. แอปเปิ้ลสีเขียว มีรสเปรี้ยวอมหวานช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้ดี เพราะการกินแอ๊ปเปิ้ลสีเขียวนอกจากจะได้รับน้ำตาลน้อยแล้วยังมีอิลาสตินและคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดี
4. แอปเปิ้ลสีเหลือง มีประโยชน์ต่างจากสีอื่น ๆ โดยมีสารเควอร์ซิตินที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และต้อกระจก


ขอขอบคุณข้อมูลจาก applesall ขอขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ประโยชน์ของฝรั่ง


ประโยชน์ของฝรั่งอุดมด้วยวิตามินซี

ประโยชน์ของฝรั่งอุดมด้วยวิตามินซี

บุรุษใดอยากมีรูปร่างหล่อ เหลา ผิวพรรณงดงาม ควรจะบริโภค ผลฝรั่งไว้เป็นประจำ

ที่ปรึกษาด้านโภชนาการของ "คลินิกหมออาหาร" นายเอียน มาร์บอร์ ของสหรัฐฯ เผยว่า ฝรั่งอุดมด้วยวิตามินซี อันเป็นสิ่งที่ขาดเสียไม่ได้ในการสังเคราะห์คอลลาเจนของร่างกาย ในฐานะโปรตีนสำคัญ ของโครงสร้างผิวหนังอย่างหนึ่ง

ทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระทรงพลัง ช่วยป้องกันรักษาผิวหนังจากสารอนุมูลอิสระ

เขาบอกต่อไปว่า "ฝรั่งยังอุดมด้วยสาร โพลีฟีนอล สารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในชาเขียวและไวน์แดง ป้องกันรักษาเซลล์จากอนุมูลอิสระ และรักษาบูรณภาพของเซลล์ ที่สำคัญมันจะช่วยชะลอร่องรอยของความแก่ชราของผิวหนัง โดยลบรอยเหี่ยวย่น และส่งเสริมความอวบอิ่มและทำให้ดูผิวงาม"

ผู้เชี่ยวชาญอีกผู้หนึ่ง เคต คุ้ก ผู้ก่อตั้งสถาบัน "ผู้ฝึกสอนด้านโภชนาการ" ยังแจ้งว่า สำหรับผู้ที่ต้องการลด น้ำหนัก เพราะเหตุฝรั่งเต็มไปด้วยกากใย จะทำให้อิ่มทน และกำจัดท้องร้องเพราะความหิว "กากใยจะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้ คงที่ ซึ่งเท่ากับช่วยปรับระดับการใช้อินซูลินของร่างกายให้พอดี ยิ่งกว่านั้น กากใยของมันยังจะช่วยล้างพิษโดยรวมทั้งสิ้น  เป็นผลให้จะมีผิวพรรณงาม".


ที่มา ไทยรัฐ

ประโยชน์ของมะละกอ



มะละกอผ่าสรรพคุณ และ ประโยชน์ของมะละกอ

วันนี้เรามีอีกหนึ่งสรรพคุณของมะละกอและประโยชน์ของมะละกอมาบอกเล่าเก้าสิบให้ทุกคนผู้รักสุขภาพได้ฟังกัน หรือใครก็ตามที่ชอบนึกยี้ผลไม้อย่างมะละกอล่ะก็อาจจะต้องเปลี่ยนใจเมื่อได้รู้ถึง สรรพคุณของมะละกอ และ ประโยชน์ของมะละกอ และ สรรพคุณของมะละกอ และ ประโยชน์ของมะละกอ ที่เรานำมาบอกกันในวันนี้นั่นก็คือ ผลไม้อย่างมะละกอสุกนั่นเองค่ะ หากเป็นมะละดิบอย่างส้มตำหลาย ๆ คนคงจะไม่ค่อยปฏิเสธแต่หากเป็นเป็นมะละกอสุกหลายคนบ่นร้องยี้ซะงั้น นั้นเพื่อให้คุณเปลี่ยนใจหันมารับประทานมะละกอสุขภันมากขึ้นก็มาดู สรรพคุณของมะละกอ และ ประโยชน์ของมะละกอ กันเลยค่ะ


สรรพคุณ และ ประโยชน์ของมะละกอ


สรรพคุณ / ประโยชน์ของมะละกอ


มะละกอสุก ๆ เนื้อสีส้มแดงนี่แหละขอบอกว่าเป็นผลไม้ที่ดีที่สุดของความมีประโยชน์ทีเดียว ใครไม่กินก็บอกได้เลยว่า คุณกำลังพลาดของดีชนิดที่สุขภาพไม่น่าให้อภัยเลย มะละกอสุกกินง่ายกว่ามะละกอดิบตั้งเยอะสามารถปอกเปลือกแล้วลำเลียงลงกระเพาะได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาในการปรุงแต่งแต่อย่างใด เป็นอาหารบริสุทธิ์ที่ธรรมชาติบรรจงสร้างมาให้เรา ฉะนั้นเรามาว่ากันถึงความอร่อยและมีประโยชน์ของมะละกอกันเลยดีกว่า

นอกจากเนื้อหวาน ๆ แสนอร่อยแล้วทุกส่วนของมะละกอยังสามารถนำมาใช้ทำยาได้ ผลการวิจัยพบว่า ประโยชน์ของมะละกอมีอยู่มากมายตั้งแต่ช่วยต้านมะเร็ง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี บรรเทาอาการท้องผูกซึ่งเป็นที่มาของโรคริดสีดวงทวาร ป้องกันอาการตับโต เป็นยาบำรุงหัวใจ ตับ และสมอง

สรรพคุณและประโยชน์ของมะละกอยังเผื่อแผ่ไปถึงเด็กทารกที่ดูดนมมารดาอีก เพราะช่วยกระตุ้นให้แม่มีน้ำนมมากขึ้นป้องกันโรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ ป้องกันการติดเชื้อจากจุลินทรีย์ที่อยู่ภายในลำไส้ เรื่องความสวยงาม มะละกอยังมีเอนไซม์ที่ช่วยบำรุงผิวได้เป็นอย่างดี ใครอยากมีผิวหน้าเนียนขาวนุ่มชุ่มชื่นก็นำมะละกอสุกครึ่งถ้วยผสมกับน้ำผึ้ง แท้ 1 ช้อน นมสดอีก 1 ช้อน ปั่นเข้าด้วยกันเป็นครีมข้น ทาให้ทั่วผิวหน้า ทิ้งไว้ 10 - 15 นาทีแล้วล้างออก เท่านี้ก็เห็นผลทันตาและทันใจทีเดียว

เป็นไงละคะ คำโฆษณาพอจะชวนเชื่อให้คุณหันมาชอบมะละกอกันได้บ้างหรือยัง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก marie claire ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

 มะละกอเป็นพืชที่มีประโยชน์ที่คนไทยนิยมรับประทานทั้งสุกและดิบ ทุกส่วนของมะละกอมีประโยชน์จึงควรปลูกมะละกอไว้รับประทานเอง 



                                                             
                                                             ที่มา  thaiwebkit.com
       มะละกอเป็นพืชมหัศจรรย์ ทุกส่วนของมะละกอสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้นมะละกอมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ผลนำไปประกอบอาหารได้หลายชนิดซึ่งอุดมไปด้วย วิตามินเอและสารเบต้าเคโรทีน วิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ผม ฟัน เหงือก สารเบต้าแคโรทีนช่วยต้านโรคมะเร็ง ช่วยให้ผิวพรรณสดใสลบริ้วรอยสิวฝ้า ส่วนผลสุกและดิบมีวิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัสและเหล็ก วิตามินซี ช่วยป้องกันและรักษาโรคหวัด โรคมะเร็ง โรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟันและใต้ผิวหนัง ช่วยไม่ให้แก่ก่อนวัย แคลเซี่ยม ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน ฟอสฟอรัสช่วยสร้างกระดูกและฟัน เหง้าช่วยบารุงเลือดและป้องกันการเป็นโรคโลหิตจาง


    ที่มา horapa.com
          เส้นใยในเนื้อของมะละกอช่วยให้ระบบขับถ่ายทางานได้ดี ไม่ทำให้ท้องผูก ไม่เกิดสิว ทำให้ไม่อ้วน ผิวพรรณสดใสมีเลือดฝาด ทั้งช่วยลดคอเลสเตอรอลอีกด้วย  ผลสุกของมะละกอมีรสหวานอร่อย มีกลิ่นหอม ชวนรับประทาน  รับประทานได้ทั้งที่เป็นผลสด หรือทำเป็นเครื่องดื่ม ทำแยม  ส่วนผลดิบนำไปประกอบอาหารทั้งที่เป็นอาหารคาว  อาหารหวาน และอาหารยอดนิยมได้แก่ส้มตำ  อาหารคาวเช่นนำไปทำเป็นแกงส้ม แกงเผ็ด ผัดใส่ไข่ แกงเหลือง แกงอ่อม แกงป่า ดองเค็ม ต้มเค็ม ต้มหรือนึ่งเป็นผักจิ้มน้าพริก ส่วนอาการหวานที่รู้จักกันดีคือมะละกอแช่อิ่ม รับประทานเป็นขนมหวานหรือใส่เป็นน้าแข็งใสก็ได้ 
                                                          
                                                            ที่มา library.cmu.ac.th  



       ยางที่ได้จากผลมะละกอดิบยังใช้หมักเนื้อ ช่วยให้เนื้อเปื่อยยุ่ยทุกส่วนของมะละกอมีสรรพคุณทางยาสามารถนำมาใช้ในการป้องกันและบาบัดรักษา โรคได้ ดังเช่นเนื้อของผลสุก ช่วยแก้อาการร้อนใน แก้กระหาย บารุงกระเพาะ บารุงม้าม..แก้ปวดท้อง และช่วยขับปัสสาวะเนื้อของผลดิบ หากนำไปตากแห้งและบดเป็นผงนาไปรับประทานขณะท้องว่างในตอนเช้า จะช่วยแก้พยาธิตัวตืด พยาธิตัวกลมใบ นาใบสดไปตาหรือย่างไฟ ใช้พอกรักษาแผล หนอง กลาก..เกลื้อน และอาการปวดบวมได้เมล็ด นามาบดเป็นผง ใช้ทาแก้กลาก เกลื้อน และโรคผิวหนัง ราก นำไปต้ม ใช้ดื่มขับปัสสาวะ ขับประจาเดือน ดอก นำไปตากแห้ง ชงเป็นน้ำดื่มขับประจำเดือนแก้ไข้ แก้โรคดีซ่าน ถ้านำไปต้มใส่น้าตาล ดื่มแก้โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจไม่ปกติ  และผลมะละกอดิบเมื่อนำไปปอกเปือกล้างให้สะอาด  หั่นเป็นชิ้นๆ  นำไปต้มรับประทานจิ้มน้ำพริกอร่อยมาก  น้ำที่ต้มนำไปดื่มล้างไขมันในลำไส้เป็นการดีทอกซ์ราคาถูก สามารถลดน้ำหนักได้ดีเชื่อมโยงความรู้จากเรื่อง
            
            มหัศจรรย์แห่งมะละกอ เป็นเนื้อหาในหนังสือวิวิธภาษา  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้เขียนต้องการให้ผู้อ่านทราบถึงประโยชน์ของมะละกอ  และได้มีการเชื่อมโยงความรู้เกี่ยวกับภาษาถิ่นและภาษามาตรฐานในภาษาไทยว่ามีการใช้ภาษาไทยกลางเป็นภาษามาตรฐานส่วนภาษาถิ่นนักเรียนจำเป็นต้องรู้  เช่น  มะละกอเป็นภาษากลาง  แต่มีชื่อเรียกเป็นภาษาถิ่นต่างกัน  เช่นภาษาเหนือเรียกว่า  มะเต้ด  ภาษาอีสาน เรียกว่า บักหุ่ง  ภาษาใต้  เรียกว่า  มะเต๊ะ  เป็นต้น  และมีคำอื่นๆอีกมากที่นักเรียนควรศึกษาสืบค้นการบูรณาการความรู้

           บูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีเรื่อง  การปลูกมะละกอ  การประกอบอาหารจากมะละกอ